วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

โยคะคืออารายยย....



โยคะ คือ การบริหารกาย ลมหายใจ และ การผ่อนคลาย (อาสนะ และ ปรารณายาม) โดยเว้นหรือข้ามส่วนที่เป็นการฝึกจิตโดยตรง ขณะเดียวกันยังคงแฝงนัยแห่ง การฝึกจิดโดยอ้อมอยู่อย่างครบถ้วน
คำว่า อาสนะ มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤตว่า อาส ซึ่งหมายถึง มีอยู่ อาศัยอยู่ใน นั่ง เงียบ ๆ อยู่อาศัย พำนัก ตามศัพท์ อาสนะ หมายถึง การนั่งหรือนั่งในท่าใดท่า หนึ่ง ในเรื่องโยคะอาสนะ หมายถึง ท่าและตำแหน่งตางๆ ในการฝึกโยคะ เช่น การยืนด้วยศีรษะ (ศีรษะอาสนะ) ท่าดอกบัว (ปัทมอาสนะ) ฯลฯ
อาสนะนับเป็นหนึ่งในแปดแขนงของโยคะแบบดั้งเดิม ในตำราโยคะสูตร มีส่วนที่ ว่าด้วยปรัชญาของโยคะ คือ "ปธังชลี" ซึ่งให้คำจำกัดความอาสนะด้วยคำ 2 คำ คือ เสถียร และสุขุม เสถียรหมายถึง ความมั่นคง ความคงที่ ความแน่วแน่ โดยมากจากราศัพท์ว่า สถ ซึ่งหมายถึงการยืน สุขุมหมายถึงการผ่อนคลาย สบาย ความสุขเมื่อจิตของกายอยู่ในสภาวะที่ตรงข้ามกับเสถียรและสุขุม กล่าวคือ อยู่ในสภาวะไม่คงที่จำกัด ร้อนรนและไม่มีสมาธิจะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะใช้ชีวิตอย่างยาก ลำบาก ขัดแย้ง เครียด และขาดความสุข การฝึกโยคะช่วยสร้างความคงที่และผ่อนคลายที่สัมผัสได้ ผ่านจิตของกาย อันจะก่อประโยชน์ทั้งด้านสมาธิและชีวิตประจำวันโดยทั่วไป
การฝึกโยคะนั้นต่างจากการออกกำลังกายแบบอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมกัน เช่น แอโรบิค ยกน้ำหนัก หรือวิ่งอย่างสิ้นเชิง จุดประสงค์ของการฝึกอาสนะไม่ใช่การพัฒนาความแข็งแรงของกล้าม เนื้อ หรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ (แม้โยคะจะมีประโยชน์เช่นนั้นด้วยก็ตาม) แต่โยคะมีจุด ประสงค์เพื่อฟื้นฟูจิตของกายให้กลับมาสู่สภาวะความเป็นอยู่ที่ดี ผ่อนคลาย และตื่นตัวอยู่เสมอ
การฝึกโยคะมีผลต่อจิตของกายในทุกๆ ด้าน เช่น ด้านร่างกายโดยผ่อนคลาย รักษา และสร้างความแข็งแรง ยืดเส้นยืดสายระบบกระดูก กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหัวใจ ระบบการย่อยอา หาร ต่อมต่างๆ ในร่างกาย และระบบประสาท ผลทางด้านจิตใจ จะเกิดผ่านการสร้างจิตใจที่สงบ ความตื่นตัวและสมาธิ ผลทางด้านจิตวิญญาณ คือ การเตรียมพร้อม สำหรับการทำสมาธิ และสร้างความแข็งแกร่งจาก "ภายใน"

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ผีออกลูกตายกับถูกยิงตายมาขอส่วนบุญ

มีผีผู้หญิงออกลูกตายกับผีผู้ชายถูกยิงตายมาขอบุญหลวงพ่อ โมทนาแล้วไปเกิดเป็นเทวดา“..ผีที่จับได้เขารับสารภาพ ถามว่า “มาจากไหน เขาให้ทำอะไร” ผีตอบว่า “ไม่อยากทำ แต่เขาใช้ทั้งคาถา ใช้ทั้งมัด ใช้ทั้งเฆี่ยน” พอเล่าเสร็จก็ถามว่า “แล้วอยากไปไหม” ผีบอกว่า “ผมอยากพ้นไปครับ” จึงบอกให้โมทนา พอโมทนาผลบุญเท่านั้นแหละเป็นเทวดาทันที เป็นผู้หญิงออกลูกตายคนหนึ่งกับผู้ชายถูกยิงตาย พอเป็นเทวดาแล้วก็บอกว่า “เพื่อนผมถูกจับอีก ๑๐ คน พรุ่งนี้ผมจะเอามา” ถามว่า “แกจะเอามาได้หรือ” ตอบว่า “ได้ครับ ผมเป็นเทวดาแล้วผมแก้ได้”พอวันรุ่งขึ้นแก เอามา ๑๕ คนมาเป็นตับเลย ถามลูกศิษย์ท้าวมหาราชว่า “ทำไมไม่กัน” ท่านบอก “อ้าว ก็ท่านบอกให้เอามา” ถามว่า “ใคร” ท่านบอก “ก็ไอ้พวกเมื่อคืนนี้” ทั้งหมดที่มาก็ขอโมทนา มันก็สบายไปหมด ประเดี๋ยวลูกศิษย์ท้าวมหาราชไปแบกมาอีก ๗ คน ไปขโมยเขามา ต้องแบกเข้ามา เขามัด ๓ เปลาะเห็นชัดเลย เชือกมัด ๓ เปลาะกระดิกไม่ได้เลย แล้วก็เฆี่ยนถ้าไม่ทำตาม ใช้ไปแล้วยังใช้คาถาเฆี่ยนตีตามอีก พอลูกศิษย์ท้าวมหาราชเอาพวกอีก ๗ คนมาก็ถามว่า “จะแก้อย่างไรล่ะ” ท่านก็บอกคาถาอภิญญาที่พระพุทธเจ้าให้ “สัมปจิตฉามิ” พอว่าคาถานี้ปั๊บเชือกขาดทันที คนนั้นลุกได้ คล้ายๆ ท่านจะสอนเรา วิธีแก้อย่างนี้ได้ก็เลยแบกมา..”